หงส์นับสองถึงสี่,ราชสีห์น้ำตาตกซ้ำสอง – 5 ข้อหงส์แดงย้ำรอยแผลเชลซีซิวเอฟเอคัพ 
จบลงอย่างเดิมแม้กระนั้นมิได้มาราธอนอย่างเดิมสำหรับเพื่อการดวลกันระหว่าง หงส์แดง กับ เชลซี ในนัดหมายชิงแชมป์ เอฟเอคัพ กลุ่มคู่ต่อสู้จากถ้วย ค้างราบาวคัพ ซึ่งจำเป็นต้องวินิจฉัยกันด้วยการดวลลูกโทษอีกจนได้สำหรับเพื่อการฟาดหน้าแข้งที่ เวมบลีย์ เมื่อวันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม
และก็ปรากฏว่า ลิเวอร์พูล เป็นข้างย้ำโกรธแค้น สิงห์บลูส์ ได้อีกครั้ง แม้กระนั้นไม่ต้องดวลความแม่นเป้ากันจนกระทั่งขนาดนายทวารของทั้งสองฝ่ายจำต้องร่วมปฏิบัติหน้าที่ด้วยซึ่งกลุ่มจากเมอร์ซีย์ไซด์ได้แชมป์เป็นรายการลำดับที่สองของฤดูกาลนี้เป็นระเบียบเรียบร้อยสถานที่เรียน แอนฟิลด์วิทยาคม แล้ว แล้วก็ยังอยู่บนทางของการคว้าสี่แชมป์ได้ถัดไป
1. 16 ปีที่คอย
ถือว่า หงส์แดง รอคอยการครอบครองแชมป์ เอฟเอคัพ นานพอสมควรเช่นกันเนื่องมาจากพวกเขามิได้แชมป์รายการนี้มานาน 16 ปีแล้วนับจากฤดูกาล 2005/06 ซึ่ง เร้ด แมชีน เสมอกับ เวสต์หมูแฮม 3-3 และก็ชนะการดวลลูกโทษเหมือนกันด้วยสกอร์ 3-1
แล้วก็ท้ายที่สุด การรอก็สิ้นสุดลงเมื่อ พบร์เก้น คล็อปป์ สร้างความใหญ่โตพาทีมซิวแชมป์ เอฟเอคัพ ยุคที่แปดมาครอบครองได้เสร็จ และก็เป็นแชมป์ถ้วยน็อคเอาท์หนแรกของเขาด้วยเหมือนกันนับจากเข้ามารับงานกับถิ่น แอนฟิลด์
พอๆกับว่าถึงในขณะนี้ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันบรรลุความสำเร็จได้แชมป์กับ หงส์แดง เป็นรายการที่หกแล้วข้างหลังเดินหน้าล่าโทรฟี้มาแทบจะครบแล้วอีกทั้ง พรีเมียร์ลีก , ค้างราบาวคัพ , แชมเปี้ยนส์ลีก , ยูฟ่าซูเปอร์คัพ แล้วก็ สมาคมโลก
อย่างไรก็แล้วแต่ เป็นป้อมหัวใจกันในกลุ่ม เดอะ ค็อป ว่า เครื่องจักรสีแดง จะได้แชมป์ในอีกสองรายการที่เหลือของฤดูกาลนี้ทั้งยัง พรีเมียร์ลีก แล้วก็ แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งจะมีผลให้พวกเขามีชื่อเสียงว่าเป็นกลุ่มแรกจากอังกฤษที่ได้แชมป์สี่รายการในฤดูกาลเดียวกัน
เวลาเดียวกัน การดวลกันระหว่าง หงส์แดง กับ เชลซี ในบอลถ้วยทั้งคู่รายการของประเทศเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่แมื่อปี 1993 โดยครั้งนั้น อาร์เซน่อล กับ เชฟฯ เว้นส์เดย์ ก็นัดหมายกันชิงดำถ้วย ลีกคัพ แล้วก็ เอฟเอคัพ ร่วมกันทั้งสอง
นอกเหนือจากนั้น เป็นกลุ่ม ปืนใหญ่ ที่สมหวังเหมาได้แชมป์ทั้งคู่รายการไปครอบครองได้เช่นเดียวกันโดยในนัดหมายชิงถ้วย ลีกคัพ พวกเขาสยบกลุ่ม นกเค้าแมว 2-1 และก็ชนะด้วยสกอร์เดียวกันอีกในนัดหมายรีเพลย์ชิงแชมป์ เอฟเอคัพ ภายหลังจากเกมแรกทั้งคู่กลุ่มเท่ากัน 1-1 จนถึงจะต้องมีการเตะนัดหมายรีเพลย์
2. หงส์ มีลุ้นได้ ซาลาห์ สางโกรธแค้น มาดริด?
ข้างหลังอยู่ใน เวมบลีย์ ได้เพียงแค่ 33 นาที โม ซาลาห์ ก็มีปัญหาเจ็บ รวมทั้งในที่สุดเล่นต่อไม่ติด จำต้องเดินออกไปให้ ดีโอโก้เก๋ โชต้า ลงเล่นแทน
แม้นัดก่อนที่ ลิเวอร์พูล บุกไปคว่ำ แอสตัน วิลล่า 2-1 ในศึก พรีเมียร์ลีก แผงหน้ากลุ่มชาติอียิปต์จะได้พัก แล้วก็ถูกส่งลงในสนามแทน หฝ่าส์ ดิอาซ ในนาทีที่ 72 แต่ว่าแปลงเป็นว่าเจ้าตัวโดนโรคเดี้ยงทำร้ายจนได้
ต่อนัดหมายชิงแชมป์ เอฟเอคัพ กับ เชลซี หากแม้ หงส์แดง จะเสีย ฟาบินโญ่ ไปเพราะว่าเจ็บในเกมดวลกับ ราชสีห์ผงาด รวมทั้งมี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงเล่นแทนในนาทีที่ 30 แต่ว่าคาดกันว่ามิดฟิลด์กลุ่มชาติบราซิลจะฟิตทันปะทะกับ เรอัล มาดริด ในนัดหมายชิงแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก วันที่ 28 เดือนพฤษภาคม
กระนั้นก็ดีแล้ว ในรายของ บังโม จะต้องรอดูกันซะแล้วว่าเขาจะสมหวังได้สางบัญชีโกรธแค้นกับ กษัตริย์ชุดขาว หรือไม่เพราะเจ็บในเกมชิงดำถ้วยน็อคเอาท์โดยข้างหลังจบเกมบู๊กับ เชลซี กลุ่มของ พบร์เก้น คล็อปป์ เหลือโปรแกรมให้ลงเล่นในฤดูกาลนี้อีกสามนัดหมายดังต่อไปนี้
17 เดือนพฤษภาคมเซาธ์หมูแฮมป์ตัน (เยี่ยม) พรีเมียร์ลีก
22 เดือนพฤษภาคมวูล์ฟส์ (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
28 เดือนพฤษภาคมเรอัล มาดริด ชิงแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก (กรุงปารีส)
จนกระทั่งปัจจุบัน มีการรับรองว่า ซาลาห์ มิได้เจ็บหนัก แถมข้างหลังจบเกมที่ เวมบลีย์ เจ้าตัวลากกระเป๋าเดินเหินได้เองด้วยพร้อมเปิดเผยกับสื่อพร้อมสรรพว่าจะลงบู๊กับ พระราชาชุดขาว ได้แน่
3. แฮททริคของ เชลซี
แฮททริคในที่นี้มิได้เป็นความหมายในทางที่ดี แม้กระนั้นเป็นเพราะ เชลซี อกหักในนัดหมายชิงถ้วยน็อคเอาท์สามปีต่อเนื่องกันแล้วซึ่งเปลี่ยนเป็นกลุ่มแรกในประวัติศาสตร์ที่โชคร้ายมหันต์ถึงเพียงนี้
ไล่จากนัดหมายชิงฤดูกาล 2019/20 พวกเขาแพ้ อาร์เซน่อล 2-1 รวมทั้งฤดูกาลถัดมาก็เสียท่าให้ เลสเตอร์ อีก 1-0 ก่อนที่จะมาโดน หงส์แดง ย้ำโกรธแค้นเข้าให้เสริมเติมจากนัดหมายชิงถ้วย ติดอยู่ราบาวคัพ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์
แต่ว่าถ้าไม่นับสามปีต่อเนื่องกัน นิวติดอยู่สเซิ่ล ก็เคยชีบอบช้ำมาก่อนจากการเข้าชิงสามครั้งหลัง แล้วก็ได้รองแชมป์อีกทั้งสามทีในฤดูกาล 1974/74 (แพ้ หงส์แดง 3-0), 1997/98 (แพ้ อาร์เซน่อล 2-0) แล้วก็ 1998/99 (แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-0)
4. เมสัน เมาท์ จะต้องคำแช่ง
ไม่น่าเชื่อก็จำเป็นต้องมั่นใจว่า เมสัน เมาท์ อับโชคดวงเต็มที่ถึงขั้นแพ้นัดหมายชิงแชมป์ที่ เวมบลีย์ เป็นรายการที่หกต่อเนื่องกันแล้ว
และก็ที่สำคัญ สตาร์วัย 23 ปีเป็นคนฆ่าลูกโทษพลาดโดน อลิสซง เซฟได้ซะด้วยอันเป็นการให้โอกาสให้ คอสตาส ซิมิติดอยู่ส ตะบันประตูสำคัญพา เร้ด แมชีน ครองแชมป์ เอฟเอคัพ ไปเชยชมด้วยสกอร์ 6-5 แม้ว่าตัวรุกกลุ่มชาติกรีซไม่เคยสอยตาข่ายให้ ลิเวอร์พูล มาก่อนเลยแม้กระทั้งประตูเดียว
แรกทีเดียว เด็กปั้นของ สิงห์บลูส์ รายนี้ เจอกับความหมดหวังที่ เวมบลีย์ ในเกม เพลย์ออฟ แชมเปี้ยนชิพ นัดหมายพ่ายแพ้ให้กับ แอสตัน วิลล่า ยุคถูก ดาร์บี้ ยืมไปใช้งาน
แล้ว เมาท์ ก็ไม่มีดวงโดยตลอดในนัดหมายชิงแชมป์ เอฟเอคัพ สองครั้งก่อนที่จะ เชลซี ปราชัยต่อ อาร์เซน่อล รวมทั้ง เลสเตอร์
ส่วนทีลำดับที่สี่เป็นการลงเล่นให้อังกฤษในนัดหมายชิงแชมป์ ยูโร 2000 ที่แพ้ให้กับอิตาลี แล้วก็ยังมีครั้งที่ห้าในเกมชิงแชมป์ ติดอยู่ราบาวคัพ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ฟัดกับ หงส์แดง จนถึงจะต้องดวลลูกโทษกันแบบมาราธอน
จนกระทั่งปัจจุบัน สรวงสวรรค์ยังไม่ปราณีต่อ เมาท์ แถมบันดลให้เขายิงลูกโทษพลาดอีกด้วยในเกมชิงแชมป์ เอฟเอคัพ กับ ลิเวอร์พูล คู่แข่งเก่า
5. รีซ เจมส์ อดสร้างประวัติศาสตร์
สรุปว่าประวัติศาสตร์ไม่เกิดขึ้นซะแล้วภายหลัง เจมส์ แบ็คขวากลุ่มชาติอังกฤษพลาดการได้ยกถ้วยแชมป์ เอฟเอคัพ กับ เชลซี เนื่องจากว่าถูก หงส์แดง อริสำคัญแออัดความพ่ายแพ้ให้อีกครั้งจนได้
หาไม่แล้ว ถ้าเกิด สิงห์บลูส์ มีชัยเหนือ ลิเวอร์พูล พ่อค้าลำแข้งวัย 22 ปีก็จะได้ลุ้นต่อในวันอาทิตย์นี้ในทันทีเนื่องจากว่า เชลซี กลุ่มหญิงจะลงเล่นนัดหมายชิงแชมป์ เอฟเอคัพ ที่ เวมบลีย์ ด้วยเหมือนกันบู๊กับ แมนฯ ซิตี้ โดย ลอเรน เจมส์ แผงหน้าน้องสาววัย 20 ปีของ รีซ คงจะถูกส่งตัวลงสู่สนามด้วย
มีการการันตีว่าถ้าเกิด รีซ กับ ลอเรน ได้แชมป์ เอฟเอคัพ ทั้งสอง ทั้งคู่ก็จะเปลี่ยนเป็นคู่นักฟุตบอลญาติพี่น้องชายหญิงคู่แรกที่ได้แชมป์ถ้วยน็อคเอาท์ แต่ว่าให้โชคร้ายที่เคสนี้เป็นไปไม่ได้ซะแล้ว
ถึงงั้นก็จำต้องรอดูกันว่า ลอเรน จะนำโทรฟี้มามอบให้กับกลุ่มหญิงของ สิงห์บลูส์ เพิ่มได้อีกใบหรือไม่เนื่องด้วยกลุ่มดังที่กรุงลอนดอนได้แชมป์ลีกหญิงของประเทศไปเชยชมได้ก่อนแล้วหนึ่งรายการเมื่อสุดสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา